ได้ไปเยือนคิวชูอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายน 59 เพราะเกาะคิวชูยังมีสถานที่น่าเที่ยวอีกมากมาย ส่วนตัวเราก็มีเวลาเพียงน้อยนิดในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง จะเที่ยวให้ทั่วทุกสถานที่ในครั้งเดียวก็คงจะยาก ครั้นจะเที่ยวแบบอัดโปรแกรมแน่นๆ ให้ได้ไปแค่ถ่ายรูปหลายๆเมืองมันก็จะกลายเป็นทัวร์นั่งรถไฟชมวิวไปซะงั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่ชอบคิวชูก็คือ คิวชูเที่ยวง่าย สนามบินฟูกุโอกะ ไม่ใหญ่โตวุ่นวายเหมือนโตเกียว และอยู่ใกล้ตัวเมืองฟุกุโอกะ มากๆนั้งแท็กซี่ก็เพียง 800 - 1000 เยนแค่นั้น ส่วนรถไฟใต้ดินก็มีบริการเช่นกันตกคนละ 210 เยน โดยต้องนั่งรถ shuttle ฟรีของสนามบินจากอาคาร Inter มา Domestic ซึ่งสถานีรถไฟอยู่ที่นั้น แต่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย ขาออกจากสนามบินก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ตอนขากลับนี้สิเดาได้ว่ากระเป๋าของแต่ละท่านคงจะออกลูกออกหลานกันสนุกสนานแน่ๆ ส่วนใครต้องการไปเที่ยวไกลๆก่อนแล้วค่อยๆวนกลับมาฟุกุโอกะ ก็มีรถบัสที่วิ่งตรงจากสนามบินไปได้เลย ส่วนตั๋วคิวชูพาสนั้นวันที่ไปถึงซื้อที่สนามบินไม่ได้นะคนขายเอาป้ายให้ดูมีข้อความแค่ว่า ยกเลิกแล้วให้ไปซื้อที่ Hakata
ซากุระบานต้อนรับตั้งแต่หน้าประตูสนามบินเลยทีเดียว
จากหน้าประตูสนามบินเดินออกมาก็จะเจอป้ายรถ shuttle และรถประจำทางที่จะนำท่านไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆโดยตรงได้เลย มีทั้งไป Beppu, Saga, Kurokawa, Yufuin, Dazaifu รวมทั้ง Huis ten bosch และ Nagasaki
รถคันนี้ไป Dazaifu ส่วนตั๋วรถสามารถซื้อได้ที่สนามบินเลย แต่หากต้องการความชัวร์ก็สามารถซื้อล่วงหน้าไ้ด้ที่เวปนี้ คลิก 
ไม่มีรถไฟไปถึง Kurokawa มีแต่รถบัส จะขึ้นจากสนามบินฟุกุโอกะ หรือไปต่อรถบัส Kumamoto ก็ได้ ทริปนี้เรารอขึ้นรถจากสนามบินไปเลย รอบ 10.32 น. มาถึง Kurokawa 12.47 น. ราคาคนละ 3090 เยน นั่งชมซากุระอย่างเพลิน ตอนแรกๆเห็นก็ตื่นเต้นถ่ายรูปจนแบตจะหมด แต่กว่าจะถึง Kurokawa มันก็ดูซะจนหายตื่นเต้นเพราะมีซากุระตลอดทางที่รถวิ่งผ่านเลย วิธีสังเกตุว่าจะถึงที่หมายของเราหรือยัง ก็คือดูเวลาตามตั๋วรถเอา เพราะเวลาเดินรถของเขาจะมาตรฐานมาก ช้า-เร็ว ก็ไม่เกิน 10 นาที
พอรถบัสจอดแล้วเราก็เดินมาทางป้ายนี้แหละ
เดินลากกระเป๋าตามทางมาเรื่อย เดินลงทางซ้ายมือนะ ตอนไปหลงเดินขึ้นเขาไปหน่อยนึงเลยถอยกลับมาถามคนที่โรงแรม ไม่งั้นคงได้ Hiking กันสนุกแน่ๆ
พักที่เรียวกัง Yumotoso ราคาพร้อมอาหารเช้า เย็น ห้องคู่ราคา 38,400 เยน (ราคาจะแตกต่างกันตามช่วงเดือนที่ไปด้วย) ดูเหมือนแพงแต่ถือว่าคุ้มค่ากับอาหาร และที่พัก รวมทั้งมีออนเซนทั้งแบบ ส่วนตัว 4-5 ห้องซึ่งเปิดให้ใช้บริการได้ตลอด 24 ชม คราวนี้ก็จะได้แช่แบบชิวๆกันหน่อย ไม่ต้องกลัวสายตาของใครแล้ว ส่วนใครที่ชอบความตื่นเต้น อยากได้บรรยากาศออนเซนแท้ๆ ก็มีแบบบ่อรวมให้แช่กันให้หายเหนื่อย และที่ตั้งของ Yumotoso ก็ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองเล็กๆนี้เลยทีเดียว ตอนที่หาข้อมูลของโรงแรมหลายคอมเม้นท์บอกว่าสื่อสารกับทางโรงแรมไม่ค่อยได้ แต่ตอนที่พวกเราไป (เมษายน 59) มีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องนะคะ
ห้องพักของเรียวกังจะอยู่ติดลำธารด้านขวามือ บรรยากาศบรรเจิดมาก
มีออนเซนหน้าให้ได้เติมความสวยกันฟรีๆ แต่ความสวยไม่ได้มากันง่ายๆ ต้องทนกลิ่นไข่เน่าหน่อยนะ
ที่ Kurokawa นี้ก็เป็นเมืองออนเซน Onsen Town คล้ายๆกับ Kinosaki และ Arima คือมีป้ายออนเซนตามภาพข้างล่างให้ซื้อในราคา 1300 เยน แล้วให้เราเลือกแช่ตามบ่อต่างๆในเมืองได้ 3 บ่อ จากทั้งหมดประมาณ 24 บ่อซึ่งแต่ละบ่อก็จะอยู่ตามเรียวกังต่างๆนั้นเอง ป้ายออนเซนนี้สามารถใช้ได้ภายใน 6 เดือน ประมาณว่าแช่ไม่ทัน 3 บ่อในทริปนี้ เดือนหน้าค่อยมาแช่อีกก็ได้ 555
เนื่องจากชะล้าใจไม่ได้จองรถบัสจาก Kurokawa - Yufuin ไว้ล่วงหน้า จึงเหลือที่นั่งในรอบบ่ายแก่ๆ เท่านั้น (รถวิ่งเพียง 2 รอบ เช้า กะ บ่าย) กว่าจะถึง Yufuin ก็คงจะ 5 โมงเย็น เลยตัดสินใจและจำใจเหมารถแท็กซี่แวนไปส่ง (ไป 4 คนรวมกระเป๋าด้วยแท็กซี่ธรรมดาก็ไปกันไม่หมดต้องใช้รถใหญ่) ไปถึง Yufuin อย่างสะดวกทันใจก่อนเที่ยง และไม่ต้องเดินลากกระเป๋าหาโรงแรมอีก ส่วนค่ารถแท็กซี่ก็ 19,500 เยน ถ้าไปรถบัส 4 คนก็จะรวมราคา 8,000 เยน
ที่ยูฟุอินพักที่โรงแรม Yufuin Lodge Tobinokura เป็นโรงแรมเล็กๆมีเพียง 8 ห้องตัวโรงแรมหายากนิดนึง ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มองเห็นภูเขารอบๆบรรยากาศธรรมชาติสดชื่นดีมากๆ มีรถจักรยานให้ปั่นเล่นฟรีด้วย ปั่นชมซากุระตอนเช้าตรู่เป็นอะไรที่วิเศษมากกกก หรือจะปั่นไปช้อปปิ้งที่ห้างอิออนก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม อ้อและภรรยาของเจ้าของโรงแรมเป็นคนไทยนะคะ ให้คำแนะนำที่เที่ยวเป็นภาษาไทยสะดวกจริงๆคะ และสะอาดมากคะ แต่ขอตินิดนึงคะมีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่แต่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ก็พอแก้ขัดได้ ส่วนเรื่องการบริการก็มาตรฐานญี่ปุ่นอยู่แล้วยอดเยี่ยมไร้กังวลคะ
บรรยาศตอนเย็นๆเดินกลับที่พัก
ร้านเบเกอรี่โฮมเมด Grand'ma อาคารของร้านสีแดงโดดเด่นมากพอๆกับรดชาตขนมปัง ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักลูกค้าของร้านที่เข้ามาอุดหนุนก็จะเห็นแต่คนท้องถิ่นคะขับรถมาจอดซื้อกันทักทายคุ้ยเคยกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดีคงจะมีแต่ลูกค้าขาประจำ เพราะร้านไม่ได้ตั้งอยู่ถนนช้อปปิ้งเส้นกลางเมือง
มีขนมปังและกาแฟให้อุ่นท้อง แต่ไม่มากเท่าไหร่คิดว่าคงทำกันสองสามีภรรยา แต่ตกแต่งร้านได้สวยงามน่านั่งมาก
เจ้าของร้านอัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกค้า
อิ่มท้องแล้วก็พากันยิ้มอย่างสบายอารมณ์ :)
เตรียมพร้อมไปชมซากุระตอนเช้าตรู่
ไปยูฟุอินครั้งที่แล้วก็เดินแต่ถนนช้อปปิ้งกลางเมือง เพิ่งรู้ว่ามีอะไรดีๆที่น่าชมกว่าการช้อปปิ้งอีกตั้งเยอะ
มิน่าหล่ะใครๆก็ชอบซากุระญี่ปุ่น
ชมซากุระตอนเช้าเรียบร้อย ตอนสายๆก็มุ่งหน้าไปแช่ออนเซ็นที่เมียวบัน และ กินอาหารนึ่งไอน้ำออนเซนที่ Kannawa Beppuไปลองชิมอาหารที่ใช้ไอน้ำจากน้ำพุร้อนมานึ่งดูซะหน่อย เมือง Beppu ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งบ่อนรก นี้ก็สมชื่อจริงๆ เขต Kannawa onsen นี้เดินไปทางไหนก็เห็นแต่ควันไอน้ำลอยขึ้นจากท่อตามถนน เดินๆอยู่ก็คิดในใจเล่นๆว่า ข้างล่างนี้มันคงเป็นดินเดือดแน่ๆเลย
ด้วยความคิดอันชาญฉลาดในการหลอกล่อนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ทางเทศบาลเมือง Kannawa จึงได้จัดสถานที่ให้ผู้มาเยือนได้ปรุงอาหารโดยใช้ไอนำ้ออนเซนที่มีมากล้นในเมืองนี้มาใช้นึ่งอาหารพวกผักต่างๆเช่น มัน ฟักทอง ข้าวโพด ปลาหมึก และ กุ้ง หอย ปู ปลา เอ่อ....แต่ไม่มีน้ำเต้ากะเสือนะคะ เนื่องจากว่าเป็นของเทศบาลและเจ้าหน้าที่ก็เป็นอาสาสมัคร ฉะนั้นรับประทานเสร็จก็ต้องช่วยเขาล้างจานชามและกระด้งด้วยคะ ส่วนวิธีการซื้ออาหารก็หยอดเหรียญซื้อจากเครื่องแล้วเอาตั๋วไปให้เจ้าหน้าที่ เขาก็จะจัดอาหารให้เรา ฟังคุณประชาสัมพันธ์ใจดีอธิบายวิธีการซื้อตั้งนานก็ไม่เก็ต เลยให้กดๆ หยอดๆ ให้เลย
Jigoku mushi kobo ที่ Kanaawa Onsen เมือง Beppu
พอได้รับอาหารแล้วก็เอามาให้คุณพี่ที่ประจำเตานึ่งนี้เลยคะ แล้วคุณพี่เธอจะสอนวิธีการนึ่งให้เรา ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ใส่ถุงมือแล้วยกถาดนึ่งลงวางในเตาแค่นี้แหละคะ แล้วรอเวลาตามที่เขากำหนดให้
มีบริการน้ำออนเซนให้ดื่มฟรี รสชาดเฝื่อนคอสุดๆ แต่ไปถึงแล้วก็ต้องลองนะคะ ขึ้นชื่อว่าของฟรี ต้องลองคะ 5555
ตรงไหนที่มีท่อ มีปล่อง จากพื้นดิน ก็จะเห็นไอน้ำพวยพุ่งออกมาแบบนี้แหละคะ ทั่วเมืองเลย
อิ่มหนำกันแล้วก็ต้องเอาอุปกรณ์การกินไปล้างให้เขาด้วยคะ
ขากลับจากอาหารนึ่งไอน้ำ เรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ ยูฟุอิน บังเอิญโชคดีได้แท็กซี่ใจดีชื่อคุณ Kato คุณพี่ Kato บอกว่าไหนๆมาแล้วไปเที่ยวชมบ่อนรกในเมืองสักสองบ่อกันเถอะนะ จะโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ว่าอย่างเพิ่งปิด (ตอนนั้นมันจะ 5 โมงเย็นแล้ว) ซึ่งเราเองก็ไม่ได้แพลนว่าไปบ่อนรกกันด้วย ประกอบกับคุณพี่ประชาสัมพันธ์วิ่งออกมาช่วยเชียร์ด้วยว่าไปดูเถอะมันสวยม๊ากมาก อยากให้เราดู พวกเราก็ประเภทเชื่อคนง่ายซะด้วยสิ แล ก็ไม่ผิดหวังจริงๆคะ สวยและน่าตื่นเต้นดีคะ บ่อ Umi Jigoku ที่เป็นบ่อสีฟ้ามีควันพวยพุ่งตลอดเวลา และบ่อ Kamado Jigoku ที่มีรูปปั้นยมฑูตกำลังทำกับข้าวนั้นแหละคะ คุณพี่ Kato ไม่ได้คิดค่าบริการอะไรเพิ่มนะคะ พอจอดรถพี่แกก็หยุดมิเตอร์ไว้ ขากลับยูฟุอินก็พาขับลัดเลาะภูเขามาวิวสวยมาก และจอดให้ชมวิวเมืองยูฟุอินจากมุมสูงอีกด้วย ตอนขากลับจาก Myoban onsen ลงมา Jigoku Mushi คุณ Kato ก็พาขับไปชมซากุระ และจอดให้ถ่ายรูปแบบเต็มอิ่มด้วยคะ
ขากลับจาก Myoban - Jigoku Mushi ก็พาแวะชมซากุระ
ขากลับยูฟุอินก็พาแวะชมวิวด้วย
และนี้ก็คือคุณพี่ Kato แท็กซี่ใจดี ผู้นี้นี่เองงงง
ขาไปจากยูฟุอินนั่งรถไฟไปถึงสถานีเปบปุ ค่าตั๋วคนละ 1100 เยน x 4 คน = 4400 บวกแท็กซึ่ขึ้นไปเมียวบันออนเซ็น (เลยที่นึ่งอาหารไปหน่อย) อีก 2000 เยน พอแช่ออนเซ็นที่ Myoban yu no sato เสร็จก็กลับมาอาหารนึ่งไอน้ำ คือรวมค่ารถไฟ + แท็กซี่ ขาไป 6400 เยน แต่ตอนขากลับแท็กซี่คุณ Kato มาส่งถึงโรงแรมเลย 6200 เยน (ก็เลยให้ไป 6500 ไม่ต้องทอน) สะดวกสบายสนุกสนาน เซฟเวลาไปตั้งเยอะ ท่านใดไปเที่ยว Beppu ลองใช้บริการคุณ Kato ดูนะคะ โทร 090-1878-9853 จะให้ทางโรงแรม หรือร้านค้า โทรเรียกให้ก็ได้คะ คุณพี่ Kato นี้ใจดีจริงๆ
การที่ไปเที่ยวแล้วได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เห็นวัฒนธรรมอันดีงาม (ความสะอาดและการมีวินัยไม่แซงคิวกัน ไม่แย่งกัน) และ ได้พบเจอความมีน้ำใจในเพื่อนมนุษย์เช่นนี้ มันเป็นอะไรที่ต้องบอกว่าเราโชคดีมากๆ และแน่นอนถ้ามีโอกาสเราจะต้องปฎิบัติต่อเพื่อนมนุษย์คนอื่นแบบนี้เช่นกัน (ฟังดูเว่อร์ๆ แต่จะพยายามให้มากที่สุด) Be Nice to Strangers because someday you will be a stranger too :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น