หน้าเว็บ

ค้นหาบล็อกนี้

08 มีนาคม 2568

GERO ONSEN

 




ก็ไม่รู้ว่า ชาลี แชปลิน ไปแช่ออนเซนที่ เกโระ หรืออย่างไร แต่รูปปั้นชาลีนี้ก็กลายเป็น 1 มุมที่ต้องถ่ายสำหรับผู้มาเยือนเกโระแล้ว


13 พฤศจิกายน 2567 จาก กรุงเทพ ไปลงสนามบิน ชุบุ เซ็นแทร นาโงยา (Chubu Centraia Airport) สายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพไปนาโงยา ตอนนี้ก็มีเพียง การบินไทย กับ แอร์เอเชียเอ็กซ์ นะคะ

ากสนามบินชุบุเซ็นแทรร์ (สนามบินนาโงยา) เดินทางเข้าตัวเมืองโดยรถไฟสาย Meitetsu เท่านั้นนะคะ เจ้าเดียว ไม่ต้องมองหา JR ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 30 -50 นาทีแล้วแต่ว่าจะเลือกขบวนไหน จะเร็วหรือช้า ก็ขึ้นกับราคาตั๋วค่ะ แต่สุดท้ายทุกขบวนก็ไปถึง สถานี Meitetsu Nagoya เหมือนกัน สถานี Meitetsu Nagoya นี้จะอยู่ติดกับสถานีของ JR เลย คือเดินๆอยู่ก็นึกว่าเป็นอาคารเดียวกันซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่มากอาจจะไม่ใหญ่เท่าสถานีโตเกียว แต่ก็ทำเอาหลงทางอยู่หลายวัน ในสถานีมีร้านช้อป ร้านอาหารครบถ้วน อ้อ...มีร้าน GU และ Uniqlo อยู่ชัน 11 ของอาคาร JR Gate Tower ด้วย เสื้อผ้าร้าน Gu น่าช้อป น่าใข้ นะคะ เรียกว่า Gu เป็นญาติกับ Uniqlo แต่ราคาถูกกว่า ศีกษารายละเอียดการเดินทางเข้าตัวเมืองได้ที่นี้ คลิก

เนื่องจากเที่ยวบินเราไปถึงสนามบินนาโงยา ตอนค่ำแล้ว จึงจองที่พักใกล้ๆสถานีรถไฟ พักก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไป เกโระ คืนนี้พวกเราจอง รร The Royal Park Canvas Nagoya ที่อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ เดินออกจากสถานีรถไฟแล้วข้ามถนนก็เดินตรงไปเรื่อยๆก็เจอ เออ...ฟังดูเหมือนง่ายเนาะ ดู Google Map ก็ง่ายมาก แต่ตอนที่ลงจากรถไฟแล้วนี้สิ กว่าจะหาทางออกเจอ แต่ทุกปัญหามีออกเสมอ และเราก็หาทางออกจนได้ 😅

ใกล้ๆกับที่พักระหว่างทางเดินจาก The Royal Canvas Nagoya ไปสถานีรถไฟนาโงยา เจอร้าน อิชิรัน ราเมง (ราเมงข้อสอบ) ก็เลยลองแวะ มาญี่ปุ่นหลายครั้งแล้ว ใครๆก็พูดถึงราเมง ข้อสอบ แต่เราเพิ่งจะได้กินก็ทริปนี้แหละ 



ร้านราเมงอยู่ชั้น 2 


ต้องสั่งอาหารจากเครื่องนี้ก่อนเข้าไปรอคิวในร้าน มีเครื่องที่มีภาษาอังกฤษให้เลือก และจ่ายด้วย Travel Card (เทรเวลการ์ดค่ายไดก็ได้)ได้

ตอนยืนรอคิวเขาจะเอาเมนูมาให้เราเลือกเพิ่ม พอเข้าไปนั่งแล้วก็เอาบัตรสั่งอาหารที่เราได้จากเครื่องด้านหน้าให้เขาไปสักพักอาหารก็จะมาเสริฟ แล้วก็ได้กินอย่างสบายใจ สบายใจจริงๆนะ กินคนเดียวมิดชิดไม่มีใครมองเห็นด้านหน้าเราแบบนี้ จะกินหกเลอะเทอะยังไงก็ได้ 😂😂

เช้าตรู่ก็พากันออกเดินทางไป เกโระ ออนเซ็น พวกเราแบ่งกระเป๋าเล็กไปส่วนกระเป๋าใหญ่ก็ฝากไว้ที่ รร เพราะ อีก 3 วันจะกลับมาพักที่ รร นี้อีกครั้ง จากสถานีนาโงยา เราจะขึ้นรถไฟ JR สาย Limited Express หรือแต่ก่อนเรียกว่า  Hida Wide View ขบวนนี้จะวิ่งไปถึง ทายามา ส่วนเราจะลง กลางทางที่ เกโระ ออนเซ็น เลือกพักที่เรียวกัง Mutsumikan ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังสถานีรถไฟ สะดวกในการลากกระเป๋ามาก เราไม่ได้แช่ออนเซนสาธารณะนอกเรียวกัง แต่ ออนเซนในเรียวกัง ซึ่งก็น่าจะเหมือนกับออนเซนอื่นๆใน เกโระ จะบอกว่า ชอบออนเซนที่นี่มาก แช่แล้วจะรู้สึกลื่นๆ รู้สึกว่าผิวเนียนสบายจริงๆ


ป้ายที่เห็นคือเรียวกัง Mustumaikan ที่เราพัก เดินตรงไปก็จะเจอสะพานข้ามไปฝั่งในเมือง ถ้าเดินย้อนกลับก็จะเป็นสถานีรถไฟ




รายชื่อแขกที่จะเข้าพักที่ Mutsumaikan ในวันนี้


ติดกับเรียวกังที่พักจะมีร้านของที่ระลึก ข้ามถนนมาก็จะเจอสะพาน


เดินข้ามสะพานนี้ไปก็จะเข้าย่านตัวเมือง แต่เป็นเมืองเล็กๆเดินสบายๆ



ด้านล่างของสะพานจะเป็น ออนเซน funsenchi แต่ก่อนเหมือนจะให้คนลงแช่ได้ แต่ตอนที่เราไปมีป้ายบอกให้แช่แต่เท้าได้เท่านั้น ตอนเช้าๆ ตรงนี้วิวสวยมากมาก



ข้ามสะพานมาก็จะเป็นร้านขายของเยอะแยะ ร้านดังที่เวปไหนๆก็แนะนำคือ ไอติมไข่ออนเซน กับพุดดิ้ง


 อืมม...มันก็อร่อยดีนะ



เดินไปทางไหนก็เจอแต่กบ

เช้าวันต่อมาพวกเราก็ไปที่ Gassho-mura Village ค่าเข้าชมคนละ 800 เยน มีรถบัสที่ขึ้นจากหน้าสถานีรถไฟไปได้คนละ 100 เยน แต่เพื่อความสะดวกจึงให้ ทาง รร เรียกแท็กซี่ให้ ค่าแท็กซี่ไปถึง Gassho mura 800 เยน ถ้าไปตอนเช้าๆก่อนเข้าไปข้างในให้เดินลงมาที่ลานจอดรถก่อนจะมีตลาดชาวบ้านแถวนั้นเป็นตลาดเล็กๆมีไม่กี่ร้านค้า แต่วิวสวยมาก



Ideyu Morning Market ตลาดเช้าตรงลานจอดรถก่อนเข้า Gassho mura ร้านค้าไม่เยอะ แต่วิวเยอะ




                        บริเวณ Ideyu Morning Market ตลาดเช้าตรงลานจอดรถก่อนเข้า Gassho mura



                       
                       ตลาดเช้าด้านหน้าก่อนเข้า Gassho mura มีร้านค้าของชาวบ้านขายตอนเช้า






ภายใน Gassho Mura จะมีบ้านแบบชิราคาวาโกะตั้งแสดง ข้างในวิวสวยค่ะ


สไลเดอร์ยักษ์เกโร  เลือกถาดรองนั่ง และเตรียมเหรียญ 100 เยน ไปหยอดประตู แล้วเดินขึ้นเขาไปไกลพอสมควร แล้วก็สนุกกกกก 😃😃😃

พรุ่งนี้ไปต่อ.. เมืองแห่งสายน้ำ Gujo Hachiman ....
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น