อยู่โตเกียวมา 3 วัน 3 คืนแล้ว วันนี้ก็ถึงคิวไปดูฟูจิซังที่่ทะเลสาปคาวากูชิโกะกัน จากโตเกียวไปคาวากูชิโกะ ได้ทั้งรถไฟและรถบัส แต่รถไฟจะต้องเปลี่ยนขบวน 1 ครั้งเพราะรถไฟของเจอาร์ ไปไม่ถึงต้องเปลี่ยนเป็นขบวนรถไฟท้องถิ่่น มองเห็นสัมภาระที่กองอยู่ตรงหน้าก็เลยคิดว่าไปรถบัสท่าจะเหมาะกว่าเพราะไปรวดเดียวจากสถานีรถบัสชินจูกุก็ถึงเลย นี้ขนาดส่งกระเป๋าใบใหญ่ไปรอที่โอซากาแล้วนะ พูดถึงส่งกระเป๋าไปยังเมืองต่างๆในญี่ปุ่นก็แสนจะสะดวก หากพักโรงแรมที่มีหลายดาวหน่อยก็แจ้งที่ฟร้อนท์เลยว่าต้องการส่งกระเป๋ากี่ใบไปที่ไหน แต่หากพักโรงแรมดาวน้อยอย่างเราก็ไม่ยากเย็นอะไร ลากกระเป๋าปุเลงๆไปหาร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ช.ม (จะไปส่งตอนตี 2 ก็ได้) อย่าง Seven Eleven , Mini Stop หรือ Lawson ซึ่งมีอยู่ทุกซอกมุม เหมือนร้านส้มตำไก่ย่าง หรือ ลาบยโส บ้านเรา แต่ต้องเตรียมที่อยู่ปลายทางไว้กรอกแบบฟอร์มด้วย ค่าส่งจะคิดตามขนาดของกระเป๋า ไม่เกี่ยงน้ำหน้ก วันนั้นส่งขนาดใหญ่ปานกลาง ตกใบละ 500 บาท
ตั๋วรถบัสไปคาวากูชิโกะ
สถานีรถบัสของฟูจิคิวไฮแลนด์ จะอยู่ใกล้กับสถานีรถใต้ดินชินจูกุ ลงรถไฟใต้ดินที่สถานีชินจูกุแล้วให้เดินออกทางด้าน West (ดูป้ายบอกทาง) รถบัสจะจอดอยู่ตรงข้ามร้านเครื่องไฟฟ้าชื่อดัง Yodobashi ถ้าเดินไม่ถูกก็ถามหาร้านนี้ก็ได้ ตอนไปมัวแต่งมหาที่จองตั๋วรถเลยไม่ได้ถ่ายรูป (รูปนี้เอาจากเวปอื่น) จองตั่วได้ที่ตีกที่เห็นหน้าต่างกระจกสีเขียวๆ ฟ้าๆนี้แหละ ถ้าซื้อแล้วรอขึ้นรถเลยก็ชั่นล่าง แต่ถ้าจองล่วงหน้าก็ขึ้นชั้นสอง ส่วนป้ายแดงๆใหญ่เห็นเด่นเป็นสง่านั้นแหละร้าน Yodobashi ตั๋วรถจะระบุเลขที่นั่งให้ด้วย
ใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม กว่าก็มาถึง คาวากูชิโกะ นั่งหลับตลอดทางตื่นขึ้นมามองเห็นเขาฟูจิ ตกใจ ตื่นเต้นและดีใจ ปนกันไปหมดไม่รู้อารมณ์ไหน 555
สถานีรถบัสและรถไฟ Kawaguchiko ด้านหลังจะเห็นฟูจิลางๆเพราะฟ้าครึ้ม อากาศเย็นสบาย |
Retro Bus หน้าตาดีทีเดียว |
ตั๋วนี้ใช้ได้ 3 วัน เก็บให้ดี ทำหายต้องซื้อใหม่นะจ๊ะ 1300 เยน |
ที่เที่ยวเยอะแต่เวลาไม่พอเพราะอยู่แค่ 2 วัน สงสัยต้องกลับไปเที่่ยวใหม่อีกรอบ :)
ตรงข้ามสถานีคาวากูชิโกะจะมีร้านอาหารชื่อ Hoto Fudo เสริฟบะหมี่ขามยักษ์อร่อยมาก (จริงๆแล้วมันเป็นหม้อ) แต่ประมาณบ่าย 3 โมงก็ปิดครัวแล้วนะ
เมนูแรก Hoto 1050 เยนนี้แหละ ต้องลองให้ได้ |
เสริฟเป็นหม้อโบราณยังงี้เลย นึกว่าจะกินไม่หมด |
ที่ไหนได้...ไม่พอกิน 5555 |
เมนูนี้ก็อร่อย เป็นฟองเต้าหู้ห่อข้าวเหนียว (คนอีสานเจอข้าวเหนียวเป็นไม่ได้ เลยเรา 555) |
บ้านสมุนไพร Herb Kan ตรงข้ามจะเป็นทะเลสาป คาวากูชิโกะ ข้างในร้านจะขายของที่ระลึกเน้นสมุนไพร ผลิตภํณฑ์ออแกนิค ทั้งหลายแหล่ |
ไอติมลาเวนเดอร์หน้าร้าน Herb kan อร่อยยยยย....หอมกลิ่นลาเวนเดอรมาก |
เดินทะลุด้านหลังร้าน Herb kan มาก็จะเจอสวนสมุนไพร และตึกสีขาวเทาที่เห็นก็เป็นร้านขายของที่ระทึกอีกร้านนึง |
ทะเลสาปคาวากูชิโกะ |
ฟ้าครึ้มอย่างงี้เลยมองไม่เห็นฟูจิซัง :( |
ดอกกุหลาบที่ี้นี้ดอกใหญ่มาก คงเป็นเพราะอากาศดี |
อาหารเย็นที่ Sakuya's Guesthouse ชุดนี้ 700 เยน |
ออนเซ็นที่เกสเฮาส์ บริการฟรี แถมจองเวลาส่วนตัวได้ห้องละ 1 ชม ต่อวันอีก สุดยอดด้วยวิวภูเขาฟูจิ ....ช่างสุนทรีย์อะไรเช่นนี้ |
ที่ Sakuya's Guesthouse ทุกห้องจะมองเห็นฟูจิซังได้ (ถ้าเมฆไม่บังเสียก่อนนะ) |
บรรดาของที่ระลึกที่เมืองนี้ก็จะเน้นรูปทรงของฟูจิเป็นหลัก มีทั้งขนม, พวงกุญแจ, กระเป๋า ฯลฯ |
ขนมรูปเขาฟูจิ |
สวนวาเวนเดอรที่ Muse Museum นี้เป็นอีกหนึ่งป้ายจอดของ Retro Bus |
ลาเวนเดอร์กำลังเริ่มบานท่ามกลางหุบเขา ที่ Muse Museum kawaguchiko |
อีกป้ายที่ Retro Bus จอดและจะต้องลงให้ได้ Music box forest museum ค่าตั๋วคนละ 1,300 เยน ดอกกุลาบนานาชนิดแข่งกันบานสะพรั่งเต็มสวน อย่าลืมดูน้ำพุเต้นระบำที่หอนาฬิกากลางสวนทุก ช.ม ด้วย |
Music box forest museum |
2 ความคิดเห็น:
สวยจังเลยค่ะ...หากไปช่วงมีนาคมคงไม่เห็นแบบนี้แน่เลย เศร้า
ไปช่วงเดือนมีนา น่าจะเห็นดอกบ๊วยบานนะคะ :)
แสดงความคิดเห็น